วิธีปลูกพริก ฉบับจับมือทำ !
พริกเป็นหนึ่งในพืชที่เหมาะจะปลูกเพื่อการค้า เพราะราคาดี ดูแลง่าย สามารถปลูกได้ตลอดปี และเมื่อปลูกแล้ว สามารถเก็บผลผลิตได้นาน 3 – 4 เดือน หรืออาจมากกว่านั้น(ขึ้นกับสายพันธุ์ และการดูแล) ยิ่งเป็นเกษตรกรมือใหม่ที่กำลังลังเลอยู่ สามารถศึกษา วิธีปลูกพริก รวมถึงต้นทุนการผลิต ประกอบการตัดสินใจได้ สำหรับผู้ที่ปลูกพริกอยู่แล้ว ก็ได้มีการรวบรวมเทคนิค วิธีปลูกพริก ให้พริกดกไว้ด้วยเช่นกัน
แหล่งปลูกที่เหมาะสม
– ดิน เป็นดินร่วนปนทราย มีการระบายนํ้าดี พริกทนน้ำขังแฉะไม่ได้ – ความเป็นกรด-ด่างของดิน (pH) ประมาณ 6.0-6.8 – อุณหภูมิที่เหมาะต่อการงอกเมล็ด ประมาณ 25 – 30 องศาเซลเซียส – อุณหภูมิที่เหมาะต่อการติดผลของพริกเผ็ด ประมาณ 25 – 35 องศาเซลเซียส – อุณหภูมิที่เหมาะต่อการติดผลของพริกหวาน ประมาณ 18 – 32 องศาเซลเซียส – ถ้าอุณหภูมิสูงกว่า 35 องศาเซลเซียส อาจทำให้ดอกร่วงและมีอัตราการติดผลต่ำ – ปริมาณน้ำที่ต้องการต่อไร่ต่อปี ประมาณ 600 – 1250 มิลลิเมตรต่อปี
การเตรียมเมล็ดก่อนเพาะ
ควรเลือกใช้เมล็ดพันธุ์ดี มีเปอร์เซนต์การงอกสูง ที่สำคัญต้องมีลักษณะสายพันธุ์ที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม ตลาด และการจัดการของเกษตรกร ซึ่งในปัจจุบันมีพันธุ์พริกมากมาย ยกตัวอย่างเช่น พริกขี้หนู (จินดา) พันธุ์ พริกขี้หนูเพชรมงคล ลักษณะเด่น ต้นแข็งแรง ผลใหญ่ มันวาว ทนทานต่อการขนส่ง พริกขี้หนูพันธุ์ พริกขี้หนูอัมพวา และ พริกขี้หนูอัมพวา โกลด์ ลักษณะเด่น ผลยาว สวย สีด้าน พริกขี้หนูทองระย้า ลักษณะเด่น ดกมาก ต้นทรงเป็นพุ่ม พริกขี้หนูพันธุ์ พริกขี้หนูซุปเปอร์ฮอท2 ซึ่งเป็นพันธุ์พื้นฐานที่ใช้กันมานาน การแช่เมล็ด ซี่งจะนำเมล็ดพริกแช่น้ำไว้ 1 คืน ถ้ามีเมล็ดที่ลอยน้ำ ให้เก็บทิ้ง เพราะเป็นเมล็ดที่เสียหรือลีบแล้ว นำเมล็ดที่ได้มาห่อด้วยผ้า เก็บไว้ในที่ร่ม 2 – 3 วัน ในระหว่างนี้ คอยหมั่นตรวจและพรมน้ำ อย่าให้ผ้าแห้ง เมื่อเมล็ดพริกเริ่มงอกแล้วจะมองเห็นเป็นตุ่มเล็ก ๆ ปลายแหลม ยื่นออกมาจากผ้า แล้วจึงนำไปเพาะในแปลงเพาะ
การเพาะเมล็ด หลัก ๆ มี 3 แบบ คือ
1. การเพาะกล้าก่อน แล้วจึงนำลงปลูก (แนะนำ) เพาะเมล็ดให้เป็นต้นกล้าในแปลงเพาะหรือถาดเพาะก่อน แล้วจึงย้ายกล้าไปปลูก เป็นวิธีที่นิยมใช้ปลูกกันมากและได้ผลมากที่สุดเนื่องจากประหยัดเมล็ดพันธุ์ นำเมล็ดที่งอกแล้วจากการแช่และบ่มทิ้งไว้มาหว่านในแปลง หรือถาดเพาะที่เตรียมไว้(หากใช้ถาดเพาะ แนะนำให้จิ้มหลุมละ 2-3 เมล็ด) แต่ต้องระวังอย่าให้หนาแน่นจนเกินไป แล้วใช้ดินโรยกลบบางๆ ใช้ฟางหรือหญ้าแห้งคลุมให้ทั่วแปลง แล้วรดน้ำ ให้พอชุ่ม อย่าให้แฉะ เมื่อต้นกล้าดังกล่าวโต(มีใบจริงประมาณ 5-7 ใบ) จึงนำลงปลูกในแปลงปลูกต่อไป
1.1 การดูแลต้นกล้า
ควรทำร่มด้วยตาข่าย ผ้าดิบ หรือทางมะพร้าว เพื่อป้องกันแดดให้ต้นกล้าเล็กๆ สำหรับในแปลงปลูกช่วงที่กล้ายังย้ายลงปลูกไม่ได้ ควรมีการฉีดพ่นกำจัดวัชพืช พ่นยาป้องกันกำจัดเชื้อราที่มีส่วนผสมของ แมนโคเซป เป็นต้น และคอยรดน้ำให้ชุ่มอยู่เสมอ คอยเฝ้าระวังโรคกล้าเน่า ซึ่งสามารถป้องกันกำจัดได้ด้วยการฉีดพ่น เมทาแลคซิล 25% เป็นต้น และหากมีการใส่ปุ๋ย ต้องรดน้ำธรรมดาตามด้วยทันที ถ้าต้นกล้าแน่นเกินไป ให้ถอนไปชำในแปลงอื่น
1.2 การย้ายกล้าลงแปลกปลูก
เตรียมหลุมปลูก ขนาด กว้าง 10 นิ้ว ลึก 10 นิ้ว โดยประมาณ ถ้าจะให้ดีควรรองก้นหลุมด้วยปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกที่สลายตัวแล้ว เพื่อให้ดินร่วนซุย และเป็นอาหารแก่ต้นพริก ย้ายกล้าเมื่ออายุประมาณ 35 – 40 วัน หรือมีใบจริง 5 – 7 ใบ และก่อนย้ายกล้า 5 – 7 วัน ควรเสริมความแข็งแรงให้ต้นกล้า โดยนำต้นกล้าไปตากแดด และควรรดน้ำทิ้งไว้ก่อนย้ายประมาณ 1 ชั่วโมง ขณะย้าย ควรขุดให้มีดินติดไปกับรากมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เมื่อปลูกลงแปลง ควรรดน้ำตามทันที แล้วหาวัสดุ เช่น กรวยกระดาษมาคลุมไว้ก่อน 2 – 3 วัน เพื่อช่วยให้ต้นกล้าแข็งแรง และปรับสภาพได้เร็วขึ้น
2. การใช้เมล็ดธรรมดาหยอดลงหลุมโดยตรง
โรยเมล็ดเป็นแถวตามขวางของแปลง โดยเว้นระยะระหว่างแถว 10 – 15 เซนติเมตร แล้วจึงใช้ดินกลบบาง ๆ ประมาณครึ่งเซนติเมตร แล้วคลุมด้วย ฟางหรือหญ้าแห้ง แล้วรดน้ำให้ชุ่ม ถ้าให้ดีควรจะคลุกด้วยสารป้องกันกำจัดเชื้อรา เช่น เมทาแลคซิล 35% และแมลง เช่น คาร์โบซัลแฟน 25% ก่อนเพาะ เพื่อป้องกันโรคและแมลงในดิน แต่วิธีนี้ต้นอ่อนพริกจะเสี่ยงถูกแมลงกัดกิน หรือถ้าน้ำไม่เพียงพอ ต้นอ่อนอาจตายได้
3. การใช้เมล็ดที่งอกแล้วหยอดลงหลุมโดยตรง
นำเมล็ดที่งอกแล้ว หยอดลงหลุมปลูกโดยตรง 2 – 3 เมล็ดต่อหลุม เมื่อต้นพริกโต ประมาณ 30 วัน ถอนหรือตัดแยกให้เหลือหลุมละต้น
การเตรียมดินปลูก
– ไถดิน ลึก 15 – 30 เซนติเมตร 2-3 คร้ัง แต่ละคร้ังตากดินทิ้งไว้ 5 – 7 วัน เก็บวัชพืชออก – อาจมีการใส่ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกที่สลายตัวแล้ว ประมาณ 20 กิโลกรัม ต่อเนื้อที่ 5 ตารางเมตร เพื่อเพิ่มความร่วยซุยของดิน หลังใส่ปุ๋ยเคล้าให้เข้ากันทิ้งไว้ 2 วัน แล้วย่อยดินให้ละเอียด เกลี่ยหน้าดินให้เรียบ
การเตรียมแปลงให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม
– ในดินเหนียว นิยมยกร่องขนาดใหญ่เช่นเดียวกับการยกร่องปลูกผัก เพื่อให้สะดวกแก่การรดน้ำ ยกร่องกว้างประมาณ 5 เมตร และร่องน้ำกว้าง 2 เมตร ลึก 0.5 – 1 เมตร – ในเขตชลประทาน ยกร่องกว้างประมาณ 80 เซนติเมตร ร่องน้ำกว้าง 25 เซนติเมตร – ในสภาพอาศัยน้ำฝน แนะนำให้ปลูกแถวคู่ ระยะห่างระหว่างต้นและระหว่างแถว 50 × 50 เซนติเมตร ทางเดินระหว่างแปลงกว้าง 120 เซนติเมตร
ระยะปลูก
ขึ้นอยู่กับพันธุ์ของพริก เพราะแต่ละพันธุ์มีขนาดทรงพุ่มที่ไม่เท่ากัน ดังนั้นจึงควรคำนึงถึงขนาดของทรงพุ่มเป็นหลัก เพื่อที่จะได้กะระยะห่างให้เหมาะสม เพราะจะส่งผลให้แสงแดดส่องไม่ทั่วถึง ทำให้ผลผลิตออกไม่เต็มที่ รวมถึงอาจเกิดปัญหาโรคและแมลงระบาดในแปลงได้ โดยทั่วไป แบ่งกว้าง ๆ ตามขนาดพุ่ม ได้ 2 แบบ คือ
- พันธุ์ทรงพุ่มกว้าง เช่น พริกขี้หนู พริกชี้ฟ้า ใช้ระยะห่างระหว่างต้นประมาณ 80 เซนติเมตร และระยะห่างระหว่างแถวประมาณ 100 เซนติเมตร
- พันธุ์ทรงพุ่มเล็ก เช่น พริกยักษ์ พริกช่อไสว ใช้ระยะห่างระหว่างต้นประมาณ 45 เซนติเมตร และระยะห่างระหว่างแถวประมาณ 60 เซนติเมตร
การดูแลต้นพริก
การดูแลนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมาก หากดูแลดี ต้นพริกอาจออกดอกผลให้ได้เก็บเกี่ยวนานถึง 6 เดือน หรือมากกว่านั้น ปัญหาหลักของพริกที่มักพบ คือเรื่องน้ำ
การให้นํ้า
ในระยะแรกเมื่อปลูกลงแปลงควรให้น้ําทุกวันจนกว่าพริกจะตั้งตัวได้ ประมาณ 5- 6 สัปดาห์ หลังจากนั้นให้สังเกตความชื้นของดิน ถ้าดินมีความอุ้มน้ำดี อาจเว้นระยะการให้น้ําได้หลายวัน โดยทั่วไปให้น้ำ 3 – 5 วันต่อครั้ง ที่สำคัญคือดินต้องมีความชุ่มชื้นอย่างทั่วถึงและสม่ำเสมอ แต่ไม่มีน้ำขังแฉะ และควรคลุมดินเพื่อรักษาความชุ่มชื้น
การให้ปุ๋ย
– ช่วง 30 – 60 วัน ต้นพริกจะมีการเจริญที่เร็วมาก จึงควรมีการให้ปุ๋ย อาจให้ปุ๋ยสูตร 15-15-15 อัตรา 25 กิโลกรัมต่อไร่ – ช่วง 60 – 90 วัน ช่วงนี้พริกเริ่มติดดอก ปัญหาที่พบมากคือเพลี้ยไฟ ซึ่งจะเข้าทำลายตาดอก ใบอ่อน ยอดอ่อนของต้นพริก สังเกตได้จากใบอ่อนที่ยอดหงิก และแข็งกระด้าง ซึ่งสามารถป้องกันกำจัดได้โดยใช้ อิมิดาคลอพริด ที่มีชื่อการค้า เช่น อิมิดา(ฟาเดีย) หรือ อิมิดา(ไบรด้า) เป็นต้น การให้ปุ๋ย จะใช้สูตร 13-13-21 อัตรา 25 กิโลกรัมต่อไร่ อาจเพิ่มปริมาณของปุ๋ยขึ้นอีกได้ แต่ไม่ควรเกิน 100 กิโลกรัมต่อไร่ – ช่วงหลัง 90 วัน พริกจะเริ่มติดผล ใส่ปุ๋ยน้ำสูตร 15-30-15 และควรใส่ไปจนสิ้นสุดระยะการเก็บเกี่ยวทุก ๆ 15 วัน อาจพบปัญหาของแมลงวันและหนอน จึงควรดูแล ฉีดพ่นยาป้องกันกำจัดแมลงป้องกันความเสียหาย ไปจนกว่าพริกจะสุกและเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ ปล. วิธีการให้ปุ๋ยที่ถูกต้อง จะต้องขุดเปิดดินเป็นร่องสองข้างแปลง โดยขุดให้ห่างจากต้นพริกประมาณ 1 คืบ โรยปุ๋ยลงในร่อง แล้วกลบดิน จากนั้นเปิดให้น้ำเข้าแปลงเพื่อละลายปุ๋ย และควรฉีดพ่นยากำจัดศัตรูพืชด้วย
การเก็บเกี่ยว
นิยมเก็บเมื่อผลพริกเริ่มเปลี่ยนสี โดยส่วนใหญ่จะเก็บพริกได้หลังปลูก 2 – 3 เดือน ขึ้นกับพันธุ์ ควรทยอยเก็บทุก 7 – 10 วัน โดยการเด็ดทีละเม็ด พริกจะให้ผลผลิตนานขึ้น และเก็บเกี่ยวไปเรื่อย ๆ จนกว่าต้นจะเริ่มโทรม (ประมาณ 3 – 4 เดือน)
ต้นทุนการผลิต
ค่าต้นพันธุ์พริก | 3200 |
ค่าเตรียมดิน | 1200 |
ค่าแรงงานในการเก็บเกี่ยวผลผลิต | 5000 |
ค่าปุ๋ย | 3000 |
ค่าสารป้องกันและกําจัดศัตรูพืช | 2000 |
พลาสติกคลุมดิน (ถ้ามี) | 1500 |
รวม | 15900 |
เทคนิคการปลูกให้พริกดก
การโน้มกิ่งต้นพริก
คัดเลือกต้นที่กำลังออกดอกและติดผลอยู่เป็นหลัก เพื่อที่น้ำหนักของผลพริก จะช่วยให้กิ่งโน้มลงนอนอยู่ในแนวระนาบกับพื้นดินได้โดยไม่ต้องใช้ตัวช่วยอื่น ๆ ก่อนจะทำการโน้มกิ่ง ให้รดน้ำก่อน เพื่อให้ดินอ่อนตัวและง่ายต่อการโน้มกิ่ง ใช้มือค่อย ๆ โน้มกิ่งลงมา เปรียบเหมือนการจัดแต่งทรงพุ่มพริก (เหมือนในไม้ผล) จึงทำให้ต้นได้รับแสงแดดทั่วถึงเต็มที่ ทำให้พริกมีการแตกกิ่งก้านเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังทำให้ทรงพุ่มพริกขยายใหญ่ขึ้น ทำให้ต้นพริกออกดอกดก อีกทั้งยังทำให้มีการระบาดของโรคและแมลงลดลง เนื่องจากทรงพุ่มโปร่งและแสงแดดส่องทั่วถึงภายในทรงพุ่มพริก
การเด็ดใบแก่ของพริก
เด็ดใบแก่ของพริกบริเวณโคนกิ่งออกประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ของใบทั้งหมด แล้วให้น้ำตามปกติ (งดให้ปุ๋ยและฮอร์โมนพืชอย่างน้อย 1 สัปดาห์) พริกก็จะติดดอกออกผลดกขึ้น
การเด็ดยอดเพื่อให้แตกยอดอ่อน
ตามหลักแล้ว พืชที่เพาะเมล็ดส่วนใหญ่จะมีการแตกยอดเพียงยอดเดียว และแตกกิ่งข้างเล็กน้อย หากต้องการให้พริกแตกกิ่งข้าง และมีทรงพุ่มสวย กะระยะความสูงตามที่ต้องการ แล้วเด็ดยอด เมื่อพริกแตกยอดหรือกิ่งใหม่ อาจเด็ดซ้ำอีก เมื่อเวลาออกดอกติดผลจะทำให้ได้ผลผลิตที่เยอะขึ้น
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
วิธีการเด็ดยอด , โรคและแมลง ของพริก
แอดไลน์มาสิ ! คุณจะไม่พลาดข่าวสารสำคัญๆ หรือ สอบถาม แบบสั้นๆเข้าใจง่ายไว้ในบทความนี้ วิธีปลูกพริก เพิ่มเติม
เกษตรสมบูรณ์ บริการให้คำปรึกษาด้านการเกษตร และ จำหน่าย ปุ๋ย ยา และ เมล็ดพันธุ์ผัก เช่น ศรแดง เจียไต๋ และตะวันต้นกล้า ราคาปลีกและส่ง พร้อมจัดส่งทั่วประเทศ
Pingback: โรคและแมลงของพริก ที่คนปลูกพริกต้องรู้ ! - ร้านเกษตรสมบูรณ์ ราชบุรี
Pingback: วิธีปลูกพริก ฉบับจับมือทำ ! - FarmerSpace