เกษตรกรไปออนไลน์ : ต้องรู้อะไรบ้าง ? (ตอนที่ 1)
เกษตรกรไปออนไลน์ : ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าในยุคปัจจุบันนี้สื่อออนไลน์ต่างมีผลต่อการดำเนินชีวิตของทุกคนเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งเป็นตัวเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของมนุษย์ไปอย่างชัดเจนยกตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจน เช่นปัจจุบันมองไปทางไหนทุกคนก็ล้วนใช้สมาร์ทโฟนทั้งสิ้น รวมถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคก็เปลี่ยนไปเช่นกัน เช่น การใช้โทรศัพท์มือถือในการซื้อของ จับจ่าย ใช้สอยสินค้าผ่านทางโลกออนไลน์ซึ่งจากสถิติก็จะเห็นได้ว่าการซื้อขายสินค้าผ่านทางโลกออนไลน์ (E-commerce) ก็มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในทุกๆปี จนทำให้บริษัทชั้นนำระดับโลก อย่าง อาลีบาบา (Alibaba) เข้ามาลงทุนในประเทศไทยด้วยเม็ดเงินจำนวนมาก จากการการเปลี่ยนแปลงของโลกที่รวดเร็วและรุนแรงขนาดนี้จึงส่งผลให้ทุกคนในสังคมต้องปรับตัวตามกระแสนิยมที่กำลังเปลี่ยนไปเพื่อไม่ให้ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง
เตรียมพร้อมก่อน เกษตรกรไปออนไลน์
ก่อนเกษตรกรไปออนไลน์ ต้องมาทำความรู้จักกับโลกออนไลน์เสียก่อนว่า มันคืออะไร ? แล้วมันสามารถช่วยอะไรได้เราบ้าง ? : โลกออนไลน์ก็คือชุมชน ชุมชนหนึ่งมีผู้คนอยู่ในชุมชนมากมายเหมือนกับชุมชนทั่วไป แต่มีข้อแตกต่างก็คือ ชุมชนออนไลน์นั้นเป็นชุมชนที่ไม่มีพรมแดนนั่นเอง ยกตัวอย่างเช่น ชุมชนของหมู่บ้านในจังหวัดยะลา บุคคลในชุมชนในหมู่บ้านนั้นก็จะรู้จักกันภายในหมู่บ้าน แต่มีพรมแดนขวางกั้นที่ทำให้ไม่สามารถรู้จักบุคคลในชุนชนของหมู่บ้านในจังหวัดเชียงใหม่ได้ ไม่สามารถติดต่อสื่อสารกันได้ เพราะฉะนั้นโลกออนไลน์ก็เป็นเครื่องมือหนึ่งที่ทำให้ ชุมชนทั้งสองสามารถรู้จักกันและสามารถติดต่อแลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้ จึงสรุปได้ว่าชุมชนออนไลน์ก็คือชุมชนที่ไม่มีพรมแดนนั่นเอง จากข้อดีของโลกออนไลน์ที่กล่าวมา จึงทำให้โลกออนไลน์ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก มีผู้คนมากมายเข้าไปอยู่ในโลกออนไลน์ พูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ทั้งๆที่บางครั้งผู้คนเหล่านั้นไม่เคยรู้จักกันด้วยซ้ำ ซึ่งข้อได้เปรียบตรงนี้เองทำให้เราสามารถเป็นที่รู้จักของคนในพื้นที่อื่นๆได้ง่าย และยังสามารถรู้จักผู้คนอื่นๆได้มากขึ้นอีกด้วย
1.เริ่มเข้าสู่โลกออนไลน์
ผมคาดว่าทุกคนคงมีโทรศัพท์มือถือที่สามารถเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตอยู่แล้ว ซึ่งก็หมายความว่าพวกเรานั้นเข้ามาอยู่ในโลกออนไลน์กันแล้ว ( เป็น เกษตรกรออนไลน์ แบบไม่รู้ตัว ! ) ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานแอพพิเคชั่นอย่างเช่น Line และ Facebook ก็ล้วนแล้วเชื่อมโยงถึงโลกออนไลน์ทั้งสิ้น เมื่อเราเข้ามาสู่โลกออนไลน์แล้ว มาเริ่มใช้โลกออนไลน์ให้เกิดประโยชน์สูงสุดกันเถอะ !
2.ใช้โลกออนไลน์ให้เกิดประโยชน์ (สำหรับผู้เริ่มต้น)
1. ใช้กูเกิ้ล google ค้นหาข้อมูล : นอกจากโลกออนไลน์จะเป็นชุมชนไร้พรมแดนที่จะพาผู้คนในพื้นที่ต่างๆมาเจอกันแล้ว ก็ยังเป็นแหล่งคลังข้อมูลขนาดใหญ่อีกด้วย สำหรับค้นหาข้อมูลต่างๆที่เราต้องการอีกด้วย ทุกท่านคงรู้จัก “กูเกิ้ล” กันอยู่แล้วซึ่งเป็นเว็บไซด์หรือเครื่องมือสำหรับค้นหาข้อมูลต่างๆนั่นเอง ซึ่งโด่งดังมากจนมีคนเล่นมุกว่า “ไม่รู้อะไรให้ไปถามกูเกิ้ล” โดยผมก็จะมาสอนวิธีการค้นหาผ่านทางกูเกิ้ล โดยอย่างแรกต้องเข้าไปที่ www.google.co.th เมื่อเข้ามาในเว็บไซด์แล้วจะเห็นช่องสำหรับค้นหา เราก็สามารถพิมข้อความเพื่อให้กูเกิ้ลไปหาสิ่งที่เราต้องการค้นหา
1.1 ใช้กูเกิ้ลค้นหาสินค้า : ตัวอย่าง ในรูปด้านบนแสดงวิธีการค้นหาในกูเกิ้ล ซึ่งในรูปซ้ายมือเมื่อเข้ามาใน www.google.co.th จะเจอหน้าต่างสำหรับค้นหา เราก็สามารถพิมพ์ข้อความที่เราต้องการค้นหาได้เลย โดยในตัวอย่างแสดงการค้นหา เมล็ด ฟักทอง ทองอำไพ ซึ่งตัวกูเกิ้ลก็จะไปค้นหาเว็บไซด์ที่เกี่ยวข้องกับคำที่เราค้นหาแล้วโชว์เหมือนในรูปด้านขวามือนั่นเอง ซึ่งเกษตกรสามารถค้นหา ข้อมูลต่างๆในการปลูกและการดูแลผักแต่ละชนิด ค้นหาราคารวมถึงสถานที่จำหน่ายผลผลิต ค้นหา เมล็ดพันธุ์ผัก เพื่อนำไปปลูก ค้นหาอุปกรณ์ทางการเกษตร โดยในปัจจุบันร้านค้าส่วนใหญ่ก็มีบริการส่งของถึงบ้านของลูกค้าแทบทุกร้านแล้ว จึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่ทำให้เกษตรกรสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ซึ่งการจ่ายเงินก็ไม่ยากเพียงแค่โอนเงินหรือเก็บเงินปลายทางก็ได้
1.2 ใช้กูเกิ้ลค้นหาข้อมูลความรู้และเทคนิคต่างๆ : ซึ่งแหล่งความรู้เหล่านี้สามารถแบ่งออกได้ 2 ประเภท : 1.คือความรู้เขียนเป็นบทความ 2.คือความรู้ที่อยู่ในรูปคลิปวิดีโอ โดยจะขอเริ่มจากแบบที่เป็นบทความก่อน ซึ่งแบบบทความจุดเด่นคือสามารถอ่านเปิดอ่านได้ง่าย ถึงแม้ความเร็วอินเตอร์ไม่สูงก็ตาม ซึ่งความบทความนี้เกิดจากการเขียนขึ้นและถูกโพสไว้ในเว็บไซด์ต่างๆ วิธีการค้นหาก็เหมือนกับการค้นหาสินค้า ในแบบที่ 1.1 เพียงแต่เปลี่ยนข้อความจากชื่อสินค้าเป็นข้อความอื่นๆ เช่น ปลูกแตงกวายังไงให้ดก , วิธีกำจัดเพลี้ยไฟ และอื่นๆ ซึ่งกูเกิ้ลก็จะหาเว็บไซด์ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เราเลือกรับชม ต่อไปเป็นแบบคลิปวิดีโอซึ่งจะเป็นข้อมูลที่พึ่งความเร็วของอินเตอร์เน็ตพอสมควร จึงควรเชื่อมต่อไวไฟ (Wifi) เพื่อให้การเล่นวิดีโอเป็นไปย่างราบรื่น
เว็บไซด์สำหรับหาข้อมูลการเพาะปลูกและการดูแล รวมถึงเทคนิคต่างๆ
1.3 ใช้กูเกิ้ลในการค้นหา ราคารับซื้อผลผลิต : โดยทั่วไปตลาดขนาดใหญ่ส่วนใหญ่จะมีเว็บไซด์เป็นของตัวเองอยู่แล้ว และจะอัพเดทราคารับซื้อผลผลิตทุกวัน ซึ่งจะทำให้เกษตรกรสามารถเช็คราคาล่วงหน้าก่อนไปขายได้ โดยสามารถเข้าไปเช็คราคาตามเว็บด้านล่างนี้ได้เลย
- www.taladsrimuang.com : ตลาดศรีเมือง จ.ราชบุรี
- https://talaadthai.com : ตลาดไท จ.ปทุมธานี
- www.taladsimummuang.com : ตลาดสี่มุมเมือง จ.ปทุมธานี
เท่านี้ เกษตรกรก็สามารถเช็คราคาก่อนนำผลผลิตไปขายได้แล้วครับ
2. ใช้ เฟสบุ๊ค Facebook เพื่อปรึกษาและแชร์ประสบการณ์กับเกษตรกรทั่วประเทศ : เฟสบุ๊ค นอกจากจะเป็นชุมชนสำหรับให้เราพบปะเพื่อนในโลกออนไลน์แล้ว บางท่านก็อาจจะยังไม่ทราบว่า เฟสบุ๊คก็ยังคงเป็นแหล่งแชร์ประสบการณ์ของเกษตรกรทั่วประเทศไทยอีกด้วย โดยก่อนอื่นที่จะเข้าไปอ่านและแชร์ประสบการณ์กับผู้อื่นก็ต้องมีบัญชีกับทางเฟสบุ๊คเสียก่อนโดยสามารถสมัครได้ที่ www.facebook.com หลังจากนั้นเราก็สามารถเข้าร่วมกลุ่มต่างๆได้แล้ว โดยส่วนตัวผมแนะนำให้เข้ากลุ่มที่เป็นกลุ่มที่สร้างสำหรับการแลกเปลี่ยนความรู้ ยกตัวอย่างเช่นรูปกลุ่มด้านล่างนี้
ซึ่งกลุ่มเหล่านี้จะแชร์ประสบการณ์จากการปลูกสายพันธุ์ต่างๆ ทำให้เราสามารถเก็บข้อมูลเพื่อไปประกอบการตัดสินใจได้ดีมากยิ่งขึ้น โดยกลุ่มต่างๆสามารถค้นหาได้จากการ search ด้านบนของจอในแถบสีฟ้า
สรุป
ข้อมูลด้านบนนั้นเป็นแบบฉบับผู้เริ่มต้นเป็น เกษตรกรออนไลน์ ผมจึงคิดว่าควรจะลงไปถึงพื้นฐาน การนำโลกออนไลน์มาใช้ประโยชน์กับตัวเกษตรกรเองก็เป็นเรื่องที่ดีเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายและเพิ่มพูลความรู้อีกด้วย ซึ่งข้อมูลที่เขียนในวันนี้ไม่ได้ครอบคลุมทั้งหมด แต่เป็นเพียงการแนะนำกว้างๆให้เท่านั้น สำหรับท่านใดที่รู้ข้อมูลเหล่านี้อยู่แล้วก็สามารถติดตามบทความจากเราได้ต่อไป เนื่องจากในตอนถัดๆไปจะเริ่มลงลึกขึ้นในการใช้เฟสบุ๊ค และกูเกิ้ล เป็นเครื่องมือส่งเสริมการขายสินค้า โดยไม่จำเป็นต้องเสียเงินซักบาท ท่านใดที่เห็นบทความนี้เป็นประโยชน์ก็ช่วยแชร์และกดไลด์เพื่อเป็นกำลังใจสำหรับผู้เขียน สำหรับท่านใดที่มีข้อสงสัยหรือต้องการแสดงความคิดเห็น ก็สามารถโพสด้านล่างบทความนี้ได้เลย
รีวิวเลย !
[yasr_visitor_votes size=”medium”]
วันหน้าจะซื้อเมล็ดพันธุ์ที่ร้านนี้ ได้ความรู้ในการปลูกผักดีมาก เยึ่ยม