สายพันธุ์ฟักทองยอดนิยม !
เนื่องจากในปัจจุบันมีการผลิตเมล็ดพันธุ์ฟักทองมาวางขายตามท้องตลาดเป็นจำนวนมาก ซึ่งฟักทองแต่ละสายพันธุ์ก็มีลักษณะเด่นที่แตกต่างขึ้นอยู่กับคุณสมบัติเฉพาะตัวของสายพันธุ์นั้นๆ ทั้งขนาด น้ำหนัก และรูปร่างก็แตกต่างกันไป รวมไปถึงราคาและความต้องการของตลาดของแต่ละสายพันธุ์ ดังนั้นการทำความรู้จัก เรียนรู้จุดเด่นจุดด้อยของแต่ละพันธุ์ก็จะส่งผลดี ทำให้เกษตรกรสามารถตัดสินใจเลือกซื้อสายพันธุ์ฟักทองที่เหมาะสมไปปลูกและได้รับผลผลิตตามความต้องการของเกษตรกร
ฟักทองพันธุ์หนัก
1.ฟักทองทองอำไพ ได้แก่ ฟักทองทองอำไพ 342 เจียไต๋ , ฟักทองทองอำไพ 426 เจียไต๋
ลักษณะ : ผิวคางคก ผลขนาดใหญ่ น้ำหนักผล 6-8 กิโลกรัม ทรงผลเป็นแป้น เป็นพู เนื้อหนาสีเหลือง รสชาติ หวาน มัน เหนียว
พื้นที่เหมาะสำหรับเพาะปลูก : ฟักทองทองอำไพ 342 : สามารถปลูกได้ทุกสภาพพื้นที่ในประเทศไทย , ฟักทองทองอำไพ 426 : เหมาะสำหรับปลูกในเขตพื้นที่ภาคใต้
ราคาเฉลี่ยในตลาดค้าผัก : เบอร์ใหญ่ = 15-20 บาท/กก.
2.ฟักทองทองอำพัน ได้แก่ ฟักทองทองอำพัน 346 เจียไต๋
ลักษณะ : ผิวคางคก ผลขนาดใหญ่ น้ำหนักผล 5-7 กิโลกรัม ทรงผลเป็นแป้น เป็นพู เนื้อหนาสีเหลือง หนา
พื้นที่เหมาะสำหรับเพาะปลูก : ฟักทองทองอำพัน 346 : เหมาะสำหรับปลูกในเขตพื้นที่ภาคกลางและตะวันออก
ราคาเฉลี่ยในตลาดค้าผัก : เบอร์ใหญ่ = 15-20 บาท/กก.
3.ฟักทองประกายเพชร ได้แก่ ฟักทองประกายเพชร ศรแดง
ลักษณะ : ผิวคางคก ผลขนาดใหญ่ น้ำหนักผล 5-7 กิโลกรัม ทรงผลเป็นแป้น เป็นพู เนื้อหนาสีเหลือง
พื้นที่เหมาะสำหรับเพาะปลูก : ฟักทองประกายเพชร ศรแดง : สามารถปลูกได้ทุกสภาพพื้นที่ในประเทศไทย , ฟักทองทองอำไพ 426 : เหมาะสำหรับปลูกในเขตพื้นที่ภาคใต้
ราคาเฉลี่ยในตลาดค้าผัก : เบอร์ใหญ่ = 15-20 บาท/กก.
4.ฟักทองลายข้าวตอกลูกใหญ่ ได้แก่ ฟักทองประกายเงิน ศรแดง
ลักษณะ : ผิวขรุขระเหมือนคางคกแต่มีลายสีเหลือง สีเขียว หรือ สีขาวแซม น้ำหนักผล 5-7 กิโลกรัม ทรงผลเป็นแป้น เนื้อเหนียว
พื้นที่เหมาะสำหรับเพาะปลูก : ฟักทองประกายเงิน : สามารถปลูกได้ทุกสภาพพื้นที่ในประเทศไทย
ราคาเฉลี่ยในตลาดค้าผัก : เบอร์ใหญ่ = 15 บาท/กก.
ฟักทองพันธุ์เบา
1.ฟักทองอัสนี ได้แก่ ฟักทองอัสนี ศรแดง
ลักษณะ : ผิวสีเขียวเข้ม ผิวคางคก ทรงผลแป้น น้ำหนัก 2-3 กิโลกรัม
พื้นที่เหมาะสำหรับเพาะปลูก : ฟักทองอัสนี : สามารถปลูกได้ทุกสภาพพื้นที่ในประเทศไทย
ราคาเฉลี่ยในตลาดค้าผัก : ฟักทองคางคก เบอร์เล็ก = 10-15 บาท/กก.
2.ฟักทองศรีเมือง ได้แก่ ฟักทองศรีเมือง 016 เจียไต๋
ลักษณะ : ผิวคางคก ทรงผลแป้น น้ำหนัก 2-3 กิโลกรัม เนื่อสีเหลืองส้ม เนื้อแน่น รสหวาน มัน เหนียว
พื้นที่เหมาะสำหรับเพาะปลูก : ฟักทองศรีเมือง 016 : สามารถปลูกได้ทุกสภาพพื้นที่ในประเทศไทย
ราคาเฉลี่ยในตลาดค้าผัก : ฟักทองศรีเมือง = 10-15 บาท/กก.
3.ฟักทองลายข้าวตอกลูกกลาง ได้แก่ ฟักทองทองคำ 443 เจียไต๋ , ฟักทองข้าวตอก 573 ศรแดง
ลักษณะ : ผิวขรุขระเหมือนคางคกแต่มีลายสีเหลือง สีเขียว หรือ สีขาวแซม น้ำหนักผล 2-3 กิโลกรัม
พื้นที่เหมาะสำหรับเพาะปลูก : ทองคำ 443 เจียไต๋ , ข้าวตอก 573 ศรแดง : สามารถปลูกได้ทุกสภาพพื้นที่ในประเทศไทย
ราคาเฉลี่ยในตลาดค้าผัก : ฟักทองลาย เบอร์กลาง = 12 -15 บาท/กก.
ฟักทองพันธุ์เล็ก
1.ฟักทองบึงกาฬ ได้แก่ ฟักทองบึงกาฬ 021 เจียไต๋
ลักษณะ : ผิวคางคก ผลขนาดเล็ก น้ำหนักผล 0.8-1.2 กิโลกรัม เหมาะสำหรับทำฟักทองสังขยา
พื้นที่เหมาะสำหรับเพาะปลูก : ฟักทองบึงกาฬ 021 เจียไต๋ : สามารถปลูกได้ทุกสภาพพื้นที่ในประเทศไทย
จากข้อมูลข้างต้น ก็สามารถช่วยให้เกษตรกรสามารถตัดสินใจปลูกฟักทองแต่ละพันธุ์ได้ง่ายมากขึ้น โดยควรเลือกพันธุ์ที่เหมาะสมกับพื้นที่ภูมิประเทศ สภาพน้ำ อากาศ และต้องคำนึงถึงความต้องการของฟักทองชนิดนั้นๆในแต่ละพื้นที่ด้วย เพื่อให้เมื่อนำผลผลิตไปขายจะได้ราคาที่สูง ทำให้มีกำไรที่เพิ่มมากขึ้นนั่นเอง
Pingback: วิธีปลูกฟักทอง ฉบับจับมือทำ ! - ร้านเกษตรสมบูรณ์ ราชบุรี