4 เคล็ดลับสำคัญในการเลือก เมล็ดพันธุ์ผัก ที่คนปลูกผักต้องรู้

ในการเริ่มต้นปลูกพืชชนิดใดก็ตาม ล้วนแล้วต้องเริ่มต้นจากการหยอดเมล็ดพันธุ์ผักลงในดิน เพราะฉะนั้นเมล็ดพันธุ์ผักที่มีคุณภาพก็จะส่งผลให้โดยตรง ต่อผลผลิตของพืชผักชนิดนั้นๆ การเลือกเมล็ดพันธุ์ผักจึงเป็นขั้นตอนที่สำคัญมากๆ สำหรับผลลัพธ์ที่ดีในอนาคต เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเรามาเริ่มเรียนรู้วิธีการเลือกเมล็ดพันธุ์ผักกันเถอะ !

แพงที่สุดไม่ได้หมายความว่าดีที่สุดเสมอไป

แน่นอนเมล็ดผักก็เหมือนสินค้าชนิดหนึ่ง ที่ผู้ขายมีการสร้างแบรนด์ และการโฆษณาสินค้า เพื่อให้ดูมีคุณค่ามากยิ่งขึ้น จึงส่งผลให้ผู้ซื้อยินยอมที่จะจ่ายเงินมากขึ้นเพื่อซื้อสินค้า
ซึ่งสิ่งที่กล่าวมาข้างต้นล้วนไม่ได้เพิ่มคุณภาพของสินค้าแต่อย่างใด เพราะฉะนั้นอย่าเลือกซื้อเมล็ดพันธุ์ผักเพียงแค่ราคาและโฆษณาเด็ดขาด

เคล็ดลับข้อที่ 1 เลือกเมล็ดพันธุ์ผักที่เหมาะกับตัวเอง

การเลือกเมล็ดพันธุ์ผักที่เหมาะกับตัวเอง หมายความว่า เราต้องรู้จักตัวเองเสียก่อน ต้องเริ่มพิจารณาว่า เรามีประสบการณ์และความรู้เพียงพอในการปลูกพืชชนิดนั้นๆหรือไม่ ยกตัวเองเช่น เรามีประสบการณ์ในการปลูกแตงกวาแล้ว แต่อยากเปลี่ยนไปทำแตงร้าน ก็สามารถทำได้เพราะพืชทั้ง 2 ชนิด เป็นพืชที่อยู่ในตระกูลเดียวกันและการดูแลคล้ายคลึงกัน เพียงแต่ต้องหาความรู้เกี่ยวกับแตงร้านเพิ่มเติมนิดหน่อยเท่านั้น

 

เคล็ดลับข้อที่ 2 เลือกเมล็ดพันธุ์ผักที่เหมาะกับสภาพแวดล้อม

สภาพแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็น ดิน น้ำ อากาศ ฤดู ก็ล้วนแล้วแต่ส่งผลแต่การปลูกผักทั้งสิ้น การเลือกเมล็ดพันธุ์ผักที่มาปลูกนั้น จึงควรเลือกให้กับสภาพแวดล้อมด้วย ยกตัวอย่างเช่น ต้องการ เมล็ดพันธุ์แตงกวา เพื่อปลูก แต่อยู่ในพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดของโรคต่างๆ เราก็ควรเลือกเมล็ดพันธุ์แตงกวาที่ออกแบบสายพันธุ์มาเพื่อทนต่อสภาพแวดล้อมและทนโรค เช่น พันธุ์ที่ออกแบบมาเพื่อทนโรคราและไวรัส เป็นต้น ซึ่งมีลักษณะเด่นคือ ทน และสามารถต้านทานโรคได้ดี อาจจะไม่ได้ให้ความดกสูงเท่ากับเมล็ดพันธุ์แตงกวาที่ออกแบบมาเพื่อให้ติดผลดกอื่น ๆ แต่ก็สามารถปลูกและเก็บผลผลิตได้ ดีกว่าเลือกพันธุ์ที่มีลักษณะเด่นที่ดกให้ผลผลิตเยอะ แต่ไม่ได้ต้านทานสภาพแวดล้อมก็จะส่งผลให้มีผลผลิตที่ต่ำกว่าพันธุ์แตงกวาที่มีลักษณะทนต่อสภาพแวดล้อมนั่นเอง

เคล็ดลับข้อที่ 2 เลือกเมล็ดพันธุ์ผักที่เหมาะกับสภาพแวดล้อม

เคล็ดลับข้อที่ 3 ดูวันหมดอายุของเมล็ดพันธุ์ผัก

ผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์ผักทุกเจ้าจะมีการพิมพ์ฉลากระบุวันหมดอายุอยู่บนด้านข้างของกระป๋อง เมื่อเลือกซื้อเมล็ดพันธุ์ก็ควรสังเกตวันหมดอายุของเมล็ดพันธุ์ผักกระป๋องนั้น ในฉลากจะระบุว่า วันหมดอายุ หรือ สิ้นอายุใช้ทำพันธุ์ ยกตัวอย่างในรูปภาพ เป็นฉลากของกระป๋องเมล็ดพันธุ์ศรแดง เมื่อหมุนกระป๋องไปด้านข้างจะสังเกตเห็น ข้อมูลวันหมดอายุของเมล็ดพันธุ์ผัก กระป๋องนั้นระบุอยู่นั่นเอง ซึ่งการนำเมล็ดพันธุ์ผักที่หมดอายุไปปลูกนั้นจะส่งผลทำให้เมล็ดพันธุ์ไม่งอก หรือมีอัตรางอกน้อยลง ส่งผลให้ได้จำนวนผลผลิตที่ลดน้อยลงนั่นเอง

วันหมดอายุ เมล็ดพันธุ์ผัก
การดูวันหมดอายุของ เมล็ดพันธุ์ผัก ก็เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญที่จะส่งผลต่ออัตรางอกของต้นกล้า

เคล็ดลับข้อที่ 4 ดูความบริสุทธิ์ และ อัตราการงอกของเมล็ดพันธุ์ผัก

ความบริสุทธิ์ของเมล็ดพันธุ์ คือ ความบริสุทธิ์ของเมล็ดพันธุ์ผักที่ไม่มีสิ่งเจือปนและสิ่งแปลกปลอมอื่นๆ นอกจากเมล็ดพันธุ์นั้นติดมาด้วย เช่น หินกรวด เปลือก เมล็ดหญ้า เป็นต้น
อัตราการงอก คือ อัตราส่วนเทียบร้อยละ เช่น อัตรางอกที่ 98% หมายความว่า เมื่อนำเมล็ดพันธุ์ผักนี้ไปปลูก 100 เมล็ด จะมีโอกาสเมล็ดที่งอกอยู่ 98 เมล็ดและไม่งอกอยู่ 2 เมล็ดนั่นเอง เพราะฉะนั้นก็ควรเลือกดูเมล็ดพันธุ์ผักที่มีความบริสุทธิ์และอัตราการงอกสูงๆ เพื่อให้ได้จำนวนผลผลิตมากที่สุด

การดูอัตรางอก ความบริสุทธิ์ เมล็ดพันธุ์ผัก
การดูอัตรางอก และ ความบริสุทธิ์ของเมล็ดพันธุ์ผัก สามารถดูได้ที่ข้างบรรจุภัณฑ์ ดังในตัวอย่าง

ก็จบลงไปแล้วเคล็ดลับการเลือกซื้อเมล็ดพันธุ์ผักแบบง่ายๆ ซึ่งถ้าทุกท่านลองนำไปใช้แล้วก็จะทำให้ทุกท่านได้รับเมล็ดพันธุ์ผักที่มีคุณภาพดี อย่างแน่นอน หากท่านใดมีเทคนิคและวิธีอื่นๆ ก็สามารถคอมเม้นเพิ่มเติมด้านล่างนี้ และถ้าบทความนี้เป็นประโยชน์ก็อย่างลืมแชร์ให้เพื่อนๆท่านอื่นด้วยนะครับ

รีวิวเลย !

[yasr_visitor_votes size=”medium”]

 


แอดไลน์มาสิ ! คุณจะไม่พลาดข่าวสารสำคัญๆ
กดปุ่ม ADD FRIEND ด้านล่างเลย

ID Line : @uox0813g

Facebook : www.facebook.com/kasetsomboonstore

Facebook : fb.me/kasetsomboonstore

Facebook Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *