กะหล่ำปลี
กะหล่ำปลี เป็นพืชเศรษฐกิจอีกชนิดที่น่าสนใจมาก เพราะเป็นส่วนประกอบของอาหารหลายอย่าง เนื่องจากมีคุณค่าในทางอาหารสูง มีรสชาติดี หวานกรอบ รับประทานได้ทั้งดิบและสุก มีอายุการเก็บรักษาได้นาน และทนทานต่อการขนส่งพอสมควร เรียกได้ว่าน่าปลูกมากทีเดียว ทางเราได้เรียบเรียงวิธีการปลูกกะหล่ำปลีแบบสั้นๆเข้าใจง่ายไว้ในบทความนี้ เพื่อใช้เป็นแนวทางสำหรับคนที่สนใจปลูก
แหล่งปลูกที่เหมาะสม
- สามารถปลูกได้ในดินแทบทุกชนิด แต่จะให้ผลผลิตสูงในดินที่มีสภาพร่วนปนทรายระบายน้ำได้ดี
- ความเป็นกรด-ด่างของดิน (pH) อยู่ในช่วง 6.0 – 6.8 (ศึกษาการปรับค่า pH ที่นี่)
- อุณหภูมิที่เหมาะสมกับการเจริญเติบโต 22 – 25 องศาเซลเซียส
- ควรได้รับแสงแดดตลอดทั้งวัน
การเตรียมเมล็ดก่อนเพาะ
เลือกเมล็ดพันธุ์ที่มีคุณภาพ มีเปอร์เซ็นต์การงอกสูง ในเมืองไทยปลูกพันธุ์เบาจะได้ผลดีที่สุด เพราะเป็นพันธุ์ที่ไม่ต้องการอากาศหนาวมากนัก มีอายุการเก็บเกี่ยวสั้น กะหล่ำปลีพันธุ์เบาที่ปลูกได้ผลดีมีหลากหลายพันธุ์ เช่น กะหล่ำปลี เบอร์ 1 ตรารถถัง , กะหล่ำปลี เบอร์ 1 ตราช้าง , กะหล่ำปลี เอมเมอร์รัลด์ , กะหล่ำปลี ที-530 และ กะหล่ำปลี ที-523 เป็นต้น
การเตรียมดิน
- แปลงเพาะกล้า ให้ขุดไถลึกประมาณ 15 – 20 เซนติเมตร กว้าง 1 เมตร ส่วนความยาวแล้วแต่ความต้องการของเรา ตากดินไว้ ประมาณ 5 – 7 วัน จากนั้นใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักที่สลายตัวได้ดี อัตรา 2,000 กิโลกรัม / ไร่ และใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 อัตรา 30 กิโลกรัม /ไร่ คลุกเคล้าให้เข้ากับดินจากนั้นย่อยหน้าดินให้ละเอียด
- แปลงปลูก ส่วนใหญ่ที่นิยมปลูกในไทยเป็นพันธุ์เบาที่มีระบบรากตื้น จึงควรเตรียมดินลึกประมาณ 18 – 20 เซนติเมตร ตากดินไว้ประมาณ 5 – 7 วัน ควรใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักลงไปด้วยเพื่อปรับปรุงสภาพของดิน จากนั้นย่อยหน้าดินให้มีขนาดเล็กลงแต่ไม่ถึงกับละเอียดจนเกินไป แล้วถ้าดินเป็นกรดควรใส่ปูนขาวลงไปเพื่อปรับสภาพดินให้มีความเหมาะสมต่อการปลูกกะหล่ำปลี
การเพาะกล้า
หลังเตรียมแปลงเสร็จให้หว่านเมล็ดกะหล่ำปลีให้กระจายทั่วแปลง หรือถ้าเราอยากให้เป็นแถวอาจจะทำร่องลึกประมาณ 1 เซนติเมตร ห่างกันแถวละ 15 เซนติเมตร แล้วโรยเมล็ดลงในร่องหว่านกลบเมล็ดด้วยปุ๋ยหมักหรือดินละเอียด จากนั้นรดน้ำให้ชุ่มแล้วคลุมด้วยฟางแห้งบางๆ หลังจากต้นกล้างอกได้ 15 – 20 วัน ให้เลือกถอนต้นที่ไม่สมบูรณ์ออกและให้ทิ้งระยะห่างต้น 10 เซนติเมตร จนกระทั่งอายุประมาณ 25 – 30 วัน จึงย้ายไปปลูก
การปลูก
เวลาย้ายควรย้ายในช่วงเวลาบ่ายๆ ถึงเย็น ตอนย้ายควรให้ดินติดรากมาด้วยและต้องระวังไม่ให้รากขาด แล้วรีบนำลงปลูกจากนั้นกดดินรอบโคนให้แน่นทันทีก่อนรดน้ำให้ชุ่ม เมื่อปลูกเสร็จแล้วควรทำร่มบังแดดให้ในวันรุ่งขึ้น อาจใช้กะลาครอบ หรือใช้ไม้บังรอบๆก็ได้ ควรปิดบังแดดไว้ประมาณ 3 – 4 วัน ค่อยเอาออก
การดูแลรักษา
การให้ปุ๋ย
1. เมื่อปลูกได้ราว 15 วัน ใส่ปุ๋ยจำพวกไนโตรเจน เช่น ยูเรีย 46% (46-0-0) หรือแอมโมเนียมซัลเฟต 21% (21-0-0) ให้ต้นละ 1 ช้อนชา ปุ๋ยจำพวกนี้จะช่วยให้ใบงาม
2. เมื่อปลูกได้ 30 วัน ทำการพรวนดินรอบ ๆ โคนต้น ใส่ปุ๋ยสูตร 12-8-8 ต้นละ 2 ช้อนชา หรือใส่ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมักแทน ต้นละ 1 กำมือ กลบดิน แล้ววันรุ่งขึ้นค่อยรดน้ำ
3. ในการให้ปุ๋ยกะหล่ำปลีแต่ละครั้งควรผสมธาตุอาหารเสริมพวกโบรอน, สังกะสี อย่างเช่น ไฮเปอร์ พลัส ตรานกอมตะ เพราะมีความจำเป็นแก่พืชตระกูลกะหล่ำมาก
การให้น้ำ
ควรรดน้ำอย่างสม่ำเสมอ วันละ 1 – 2 ครั้ง ในระยะแรกให้รดน้ำด้วยการฉีดเป็นฝอยในช่วงเช้าและเย็นทุกวัน จนกระทั่งหัวเริ่มเข้าปลีให้ลดปริมาณการรดน้ำลงเพื่อป้องกันไม่ให้หัวปลีแตกและไม่ห่อหัว โดยปกติถ้าไม่รดน้ำมากจนเกินไปก็จะไม่มีปัญหาเรื่องการเข้าหัวของปลีมากนัก
การเข้าปลี
ในบางครั้งถ้ากะหล่ำปลีหลวม ห่อหัวไม่แน่นเราก็จำเป็นที่จะต้องให้อาหารเสริมบ้าง อย่างเช่น อาหารเสริมพืช ไวกิ้ง ตราแพลน นำไปผสมน้ำแล้วพ่นทุกๆ 7 วัน จะทำให้กะหล่ำปลีห่อหัวแน่นและมีน้ำหนักมากยิ่งขึ้น
การเก็บเกี่ยว
ถ้าเป็นพันธุ์เบาเราจะเก็บเกี่ยวได้ตอนอายุประมาณ 50 – 60 วัน โดยใช้มีดที่คมตัดบริเวณส่วนโคน ซึ่งกะหล่ำปลีจะมีน้ำหนักประมาณ 1-2 กิโลกรัม/ต้น การเก็บในระยะที่เหมาะสมจะได้หัวที่สมบูรณ์ ถ้าเก็บขณะอ่อนเกินไปหัวจะไม่แน่น จะเสียขนาดและน้ำหนัก แต่ถ้าทิ้งไว้นานเกินไปหัวจะหลวม ทำให้คุณภาพของหัวกะหล่ำปลีลดลง เสียรสชาติ ไม่ได้ราคา ฉะนั้นเวลาเก็บเกี่ยวควรสังเกตหัวที่แน่นจะดีที่สุด
โรคที่สำคัญของกะหล่ำปลี
โรคเน่าเละ
สาเหตุ เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย
อาการ ในระยะแรกพบเป็นจุด ๆ หรือบริเวณมีลักษณะฉ่ำน้ำคล้ายรอยช้ำ ต่อมาแผลจะขยายลุกลามออกไป ทำให้เกิดการเน่าเละเป็นเมือกเยิ้มมีกลิ่นเหม็นจัด เมื่ออาการรุนแรงจะทำให้กะหล่ำปลีเกิดการเน่าเละทั้งหัวและหักพับลง
การป้องกันกำจัด
1. ในแปลงปลูกควรมีการระบายน้ำที่ดี น้ำไม่ขังแฉะ
2. ใช้สารกำจัดแมลงปากกัดหรือแมลงวันในแปลงปลูกด้วยการโรย ไดโนทีฟูแรน รอบโคนต้น
3. ระมัดระวังอย่าให้เกิดแผลหรือรอยช้ำทั้งขณะเก็บเกี่ยวและขนส่ง
โรคราน้ำค้าง
สาเหตุ เกิดจากเชื้อรา
อาการ ถ้ามองจากด้านบนใบจะเห็นเป็นปื้นสีเหลืองจางๆ พลิกใต้ใบขึ้นมาดูหลังใบจะเห็นขุยสีขาวๆในช่วงอากาศเย็นและมีน้ำค้าง พบมากในระยะกล้า
การป้องกันกำจัด
1. คลุกเมล็ดด้วย สาร เมทาแลกซิล
2. ถ้าไม่ได้คลุกเมล็ดก่อนปลูก แล้วเกิดอาการโรคราน้ำค้างให้ฉีดพ่นด้วย สาร เมทาแลกซิล หรือ แมนโคเซบ
แมลงศัตรูพืชที่สำคัญของกะหล่ำปลี
หนอนใยผัก
การทำลาย หนอนใยผักจะกัดกินผักอ่อน ดอกหรือใบที่หุ้มอยู่ทำให้ใบเป็นรูพรุน นอกจากนี้หนอนใยผักมีความสามารถในการทนต่อสารเคมี และปรับตัวต้านทานต่อสารเคมี
ป้องกันกำจัดได้ดี
การป้องกันกำจัด
1. ใช้สารเคมีกำจัดตัวหนอนโดยตรง อย่างเช่น ไซเพอร์เมทริน, เดลทาเมทริน, โพรฟีโนฟอส, อะบาเมกติน ผสมน้ำพ่นทุกๆ 7 วัน/ครั้ง
2. ใช้เชื้อแบคทีเรียบาซิลลัสทรูรินเจนซิส ทำลาย
3. หมั่นตรวจดูแปลงกะหล่ำปลี เมื่อพบตัวหนอนควรรีบทำลายทันที
หนอนคืบกะหล่ำ
การทำลาย หนอนคืบกะหล่ำเป็นหนอนที่กินจุมาก ในระยะแรกตัวหนอนจะกัดกินที่ผิวใบ พอโตขึ้นจะกัดกินใบทำให้เป็นรอยแหว่งจนเหลือแต่ก้าน
การป้องกันกำจัด
1. ใช้กับดักกาวเหนียวสีเหลือง 80 กับดักต่อไร่
2. ใช้สารเคมีกำจัดหนอน ถ้าหากพบหนอนคืบกะหล่ำระบาดพ่นด้วย โพรฟีโนฟอส ที่ผสมน้ำประมาณ 7 วัน/ครั้ง
หนอนเจาะยอดกะหล่ำ
การทำลาย หนอนจะเจาะเข้าไปกัดกินในหัวหรือยอดผักที่กำลังเจริญเติบโต ทำให้ยอดขาดไม่เข้าหัว ถ้าระบาดในระยะออกดอกจะเจาะเข้าไปในลำต้น ก้านดอก หรือในระยะเล็กจะกัดกินดอกจนเสียหาย
การป้องกันกำจัด
1. เลือกกล้าผักที่ไม่มีไข่หรือหนอนเล็กติดมา
2. ใช้สารเคมีในการป้องกันกำจัด ถ้าหากเป็นแหล่งปลูกผักที่ไม่ค่อยได้ใช้สารเคมีกันมาก่อนควรใช้ เมวินฟอสหรือเมทโธมิล ใช้ในระยะใกล้เก็บผักสด แต่ถ้าเป็นแหล่งที่เคยปลูกผักและมีการใช้สารเคมีมาแล้วควรเลือกใช้สารในกลุ่มไพรีทรอยด์ อย่างเช่น ไซเพอร์เมทริน พ่นประมาณ 7 วัน/ครั้ง
แมลงศัตรู อื่น ๆ ได้แก่
ด้วงหมัดผัก จะพบการทำลายได้ตลอดปี ป้องกันโดยการฉีดพ่นสารเคมีกลุ่มคาร์บาเมด อย่างเช่น คาร์โบซัลแฟน(พอส) หรือ ฟิโพรนิล ฉีดพ่นทุกๆ 7 วัน
มด จะทำลายช่วงก่อนกล้างอก สังเกตได้จากทางเดินของมดป้องกันกำจัดโดยใช้ คาร์โบซัลแฟน(พอส) และคูมิฟอส รดแปลงกล้า
ต้นทุนการผลิต
ค่าเมล็ดพันธุ์ | 800 |
ค่าเตรียมดิน | 2250 |
ค่าแรงงานในการเก็บเกี่ยวผลผลิต | 6000 |
ค่าปุ๋ย | 2000 |
ค่าสารป้องกันและกําจัดศัตรูพืช | 600 |
รวม | 11650 |
แอดไลน์มาสิ ! คุณจะไม่พลาดข่าวสารสำคัญๆ หรือ สอบถาม แบบสั้นๆเข้าใจง่ายไว้ในบทความนี้ วิธีปลูก กะหล่ำปลี เพิ่มเติม
เกษตรสมบูรณ์ บริการให้คำปรึกษาด้านการเกษตร และ จำหน่าย ปุ๋ย ยา และ เมล็ดพันธุ์ผัก เช่น ศรแดง เจียไต๋ และตะวันต้นกล้า ราคาปลีกและส่ง พร้อมจัดส่งทั่วประเทศ