เคล็ดลับ ระบบประหยัดน้ำ จาก อิสราเอล(ประเทศทะเลทราย) ช่วยลดต้นทุนหลายเท่า ในราคาไม่ถึง 2000 !!
เกษตรแบบอิสราเอล นั้นเกิดขึ้นจากอิสราเอล เป็นประเทศที่เต็มไปด้วยทะเลทราย สภาพอากาศแบบทะเลทรายและกึ่งทะเลทราย มีความแห้งแล้งเป็นอย่างมาก มีช่วงเวลาที่ฝนตกอยู่ที่เพียง 4 เดือน/ปี เท่านั้น นำไปสู่ปัญหาแหล่งน้ำไม่เพียงพอ โดยพื้นที่ที่เหมาะสมและสามารถเพาะปลูกเพียง 20 เปอร์เซ็นต์ พื้นที่ถูกปกคลุมด้วยทะเลทราย 60 เปอร์เซ็น พื้นที่ที่เหลือนั้นจัดว่าเป็นพื้นที่กึ่งแห้งแล้ง
อิสราเอล จากปัญหาการขาดแคลนน้ำในการเพาะปลูก ทำให้ประเทศอิสราเอล ได้ทำการคิดค้น ระบบน้ำและระบบชลประทาน ซึ่งอิสราเอล ได้รับการยกย่องในฐานะ “หนึ่งในระบบชลประทานดีที่สุดของโลก” นอกจากนี้ยังขนานนามว่าเป็น “ต้นแบบของชลประทานน้ำหยด”
ดังนั้นวันนี้ทางเกษตรสมบูรณ์ขอนำเสนอวิธีการนำเทคโนโลยีการเกษตรแบบอิสราเอล มาปรับใช้ให้เข้ากับการปลูกพืชในประเทศไทยกันค่ะ
ระบบน้ำหยด
ชลประทานแบบน้ำหยด เป็นวิธีการในการประหยัดน้ำของ เกษตรแบบอิสราเอล เป็นการวางระบบท่อส่งน้ำเพื่อให้น้ำและปุ๋ยไปเลี้ยงรากพืชแต่ละต้นได้โดยตรง ซึ่งสามารถช่วยประหยัดน้ำได้ถึง 80% ไม่เพียงแค่ลดการใช้น้ำลงได้อย่างมากเท่านั้น ระบบดังกล่าวยังทำให้พืชได้รับสารอาหารจากปุ๋ยและน้ำในปริมาณพอเหมาะเพียงพอ ส่งผลปริมาณผลผลิตเพิ่มขึ้นมาราว 30-50% หลักการก็คือ การปล่อยน้ำแบบหยด ให้ซึมไปเรื่อยๆ โดย น้ำที่หยดไปแต่ละหยดนี้ จะถูกซึมซับเข้าสู่เนื้อดินอย่างรวดเร็วก่อนที่จะระเหยไป และเป็นการใช้น้ำอย่างตรงเป้าหมาย
วิธีการทำระบบให้น้ำแบบน้ำหยด ( เครดิต )
อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม

ถังน้ำ 200 ลิตร ท่อพีวีซี วาล์วน้ำ ข้อต่อต่างๆ เทปน้ำหยด และอุปกรณ์ต่อพ่วง วิธีการทำ 1.เจาะรูก้นถังน้ำ 200 ลิตร ประมาณ 5 ซม. ติดตั้งทางน้ำออก นำข้อต่อพีวีซีเกลียวนอกพันด้วยเทปพันเกลียวขันเข้ารูให้แน่นสิทกันแล้วล็อกข้อต่อพีวีซีเกลียวนอก ต่อมาทำกานติดตั้งวาล์วท่อพีวีซี โดยติดตั้งชุดกรองน้ำเกษตร ให้หัวลูกศรที่ตัวกรองหันไปในทิศทางเดียวกับการไหลของน้ำ ติดตั้งท่อพีวีซีตามความกว้างของหัวแปลง นำถังตั้งบนที่สูงโดยให้สูงกว่าแปลงปลูก 1-2 เมตร จากนั้นเจาะท่อพีวีซีในตำแหน่งที่ต้องการวางสายเทปน้ำหยด ใส่ลูกยางกันรั่วในรูที่เจาะ เจาะรูก้นถังน้ำ 200 ลิตร ประมาณ 5 ซม. ติดตั้งทางน้ำออก นำข้อต่อพีวีซีเกลียวนอกพันด้วยเทปพันเกลียวขันเข้ารูให้แน่นสิทกันแล้วล็อกข้อต่อพีวีซีเกลียวนอก ต่อมาทำกานติดตั้งวาล์วท่อพีวีซี โดยติดตั้งชุดกรองน้ำเกษตร ให้หัวลูกศรที่ตัวกรองหันไปในทิศทางเดียวกับการไหลของน้ำ ติดตั้งท่อพีวีซีตามความกว้างของหัวแปลง นำถังตั้งบนที่สูงโดยให้สูงกว่าแปลงปลูก 1-2 เมตร จากนั้นเจาะท่อพีวีซีในตำแหน่งที่ต้องการวางสายเทปน้ำหยด ใส่ลูกยางกันรั่วในรูที่เจาะ แล้วทำการติดตั้งข้อต่อเทปน้ำหยด เปิดน้ำไล่เศษตะกอนต่างๆออก ก่อนครอบฝาพีวีซีปิดปลายทั้งสองข้าง แล้วเสียบเทปน้ำหยดเข้ากับข้อต่อล็อกเทปให้แน่นโดยให้รูน้ำหยดหงายขึ้น ลองเปิดวาล์วทดสอบระบบ ขั้นตอนสุดท้ายพันปลายสายเทปน้ำหยดให้แน่น เป็นอันเสร็จสิ้นชาวเกษตรกรจะได้ระบบสวนครัวน้ำหยดราคาประหยัดแล้ว
ระบบน้ำพุ่ง
ระบบน้ำพุ่งนั้นจะคล้ายกับระบบน้ำหยดเป็นอย่างมาก โดยมีข้อดี ผลลัพธุ์ที่ได้ใกล้เคียงกัน แต่จะแตกต่างกันที่วิธีในการทำ
ข้อดีของระบบน้ำพุ่ง
1. ประหยัดน้ำมากที่สุด เมื่อเปรียบเทียบกับการให้น้ำด้วยวิธีอื่น
2. ประหยัดเวลา ใช้เวลาไม่นานในการให้น้ำแต่ละครั้ง
3. ประหยัดแรงงาน ไม่เหนื่อยมากในการให้น้ำในแต่ละครั้ง
4. ประหยัดค่าใช้จ่าย ค่าน้ำมัน หรือ ค่าไฟฟัาในการป้ัมน้ำแต่ละครั้งเนื่องจากใช้เวลาในการให้น้ำสั้นกว่า
5. ต้นพืช-ผัก มีการเจริญเติบโตได้ดี อย่างต่อเนื่อง
6. ค่าติดตั้งถูก ทำเองได้
วิธีการทำระบบให้น้ำแบบน้ำพุ่ง ( เครดิต )
วิธีการทำระบบให้น้ำแบบน้ำพุ่งนั้น มีลักษณะคล้ายขั้นตอนการติดตั้งระบบน้ำหยดทุกประการ เเต่ต่างกันที่ขั้นตอนหลังการติดตั้งวาล์วน้ำหยดแล้ว ให้คุณเปลี่ยนมาเป็นเทปน้ำพุ่งแทน จากนั้นจึงวางแนวเทปไปตามพื้นที่ระหว่างกึ่งกลางของเเปลงปลูก เพื่อให้ต้นไม้ทั้งสองฝั่งได้รับน้ำอย่างทั่วถึง หากมองในแง่ของการใช้งานแล้ว การให้น้ำด้วยระบบน้ำพุ่งนี้ เปรียบเทียบได้กับการให้น้ำแบบมินิสปริงเกอร์ที่เดินระบบด้วยท่อ PE (ท่ออ่อน) โดยเมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว การเดินระบบด้วยท่อ PE จะมีค่าใช้จ่ายเริ่มตั้งเเต่การติดตั้งที่สูงกว่าระบบน้ำพุ่งเกือบเท่าตัว แต่ข้อดีของระบบมินิสปริงเกอร์ในท่อ PE คือสามารถถอดล้างระบบได้หากเกิดการอุดตัน ส่วนระบบน้ำพุ่งจะเกิดปัญหานี้ได้ง่ายกว่า หากไม่วางระบบกรองเกษตรให้ดีเสียก่อน ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความรอบคอบ ในการติดตั้งและเลือกใช้
ทั้งนี้เราสามารถเลือกปรับใช้ระบบน้ำพุ่งร่วมกับระบบน้ำหยดได้ โดยการแบ่งโซนที่ใกล้กับ ปั๊มน้ำให้เป็นระบบน้ำพุ่ง และ เมื่อแรงดันที่ปลายทางลดต่ำลงให้เลือกใช้ระบบน้ำหยด ซึ่งจะต้องออกเเบบแปลงปลูกพืชไว้ก่อนการวางระบบ ว่าเราจะปลูกพืชชนิดใดในพื้นที่ก่อนหลัง ซึ่งจะเป็นการช่วยให้เราสามารถปลูกพืชได้หลากหลาย ตามหลักการให้น้ำที่กล่าวไปข้างต้น
ระบบน้ำพุ่งเพื่อการเกษตรทั้งหมดนี้ สามารถประกอบติดตั้งได้ ในงบประมาณไม่เกิน 20,000 บาท สำหรับแปลงปลูกขนาดไม่เกิน 1 ไร่ และสามารถมีอายุการใช้งาน ได้ราว ๆ 5-10 ปี (เช่นเดียวกับระบบน้ำหยด) ซึ่งขึ้นอยู่กับคุณภาพ ของระบบท่อต่าง ๆ ที่เลือกนำมาใช้ และ การหมั่นดูแลรักษานั่นเอง
ระบบให้น้ำแบบไอหมอก
ระบบให้น้ำแบบไอหมอกนัน เป็นระบบน้ำที่ปล่อยเป็นหมอก ฝอกเล็กๆในอากาศ เพื่อให้ความร้อนในอากาศลดลง ความชื้นในอากาศเพิ่มขึ้น เป็นการลดการเสียน้ำในพืช
วิธีการทำระบบให้น้ำแบบไอหมอก ( โดยคุณ พัช50 )
อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม
1. ท่อ pvc 6 หุน พร้อมบอลวาล์วและข้อต่อ(ตามสภาพพื้นที่) 2. กาวทาท่อ/เทปพันเกลียว/ใบเลื่อยตัดท่อ 3. ท่อ PE 20 mm และ 16 mm พร้อมชุดข้อต่อ(ตามสภาพพื้นที่) 4. ท่ออ่อน ไมโคร 7 mm 5. ตัวเจาะท่อ PE 6. หัวพ่นหมอก(เลือกตามอัธยาศัย) วิธีการทำ เริ่มต้นเลย ต่อสามทางด้วย PVC 6 หุน แยกออกมาจากระบบปั๊มครับ
แอดไลน์มาสิ ! คุณจะไม่พลาดข่าวสารสำคัญๆ หรือ สอบถาม แบบสั้นๆเข้าใจง่ายไว้ในบทความนี้ เทคนิคการจัดการปัญหาน้ำในหน้าแล้ง เพิ่มเติม
เกษตรสมบูรณ์ บริการให้คำปรึกษาด้านการเกษตร และ จำหน่าย ปุ๋ย ยา และ เมล็ดพันธุ์ผัก เช่น ศรแดง เจียไต๋ และตะวันต้นกล้า ราคาปลีกและส่ง พร้อมจัดส่งทั่วประเทศ
ID Line : @uox0813g
Facebook : www.facebook.com/kasetsomboonstore
Facebook : fb.me/kasetsomboonstore